การออกกำลังกายในผู้ป่วยข้อไหล่ติด



ข้อไหล่ติดยึด คือ อะไร ?


คือ ภาวะที่มีการขยับข้อไหล่ได้น้อย โดยมักจะเริ่มจากน้อยๆ เช่น ไม่สามารถ ยกไหล่ได้สุดหรือไขว่หลังได้สุด ต่อมาถ้าไม่ได้รับการรักษาจะเป็นมากขึ้นจนขยับได้น้อย หรือไม่ได้เลย

สาเหตุของข้อไหล่ติดยึดคืออะไร ?


สาเหตุหลักของข้อไหล่ยึดติด การอักเสบของเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ ข้อไหล่ ซึ่งเรียกว่า เยื่อหุ้มข้อไหล่ (Capsule) ปกติเยื่อหุ้มข้อไหล่จะค่อนข้างยืดหยุ่นและสามารถขยายตัวหรือหดตัว ตามการขยับของข้อไหล่ได้ แต่เมื่อเกิดภาวะข้อไหล่ติดยึดขึ้น เยื่อหุ้มข้อไหล่ดังกล่าวจะมีการอักเสบและหดตัวจนไม่สามารถยืดหยุ่นได้เหมือนเดิม ทำให้ขยับข้อไหล่ได้ลดน้อยลง และมีอาการปวดร่วมด้วยเสมอ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอักเสบของcapsuleและนำไปสู่ภาวะข้อไหล่ติดในที่สุด
  •          การกระแทกของข้อไหล่
  •          การที่ขยับข้อไหล่เป็นเวลานาน
  •          การอักเสบของกล้ามเนื้อและเอ็นโดยรอบข้อไหล่

 ระยะของข้อไหล่ติดได้เป็น ระยะ



ระยะที่ 1 : freezing stage(6–9 weeks) ปวดเด่นชัด ยังพอเคลื่อนไหวได้
ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นของผู้ที่เริ่มมีภาวะข้อไหล่ติด โดยจะมีอาการปวดขณะเคลื่อนไหวข้อไหล่ และปวดมากขึ้นเมื่อพยายามขกแขนขึ้นเหนือศีระษะ แต่ระยะนี้จะยังไม่รู้สึกถึงภาวะข้อไหล่ติดอย่างเด่นชัด หากเข้ารับการรักษาทางกายภาพบำบัดในระยะนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะข้อไหล่ติดที่มากขึ้นได้ หรือหมั่นยกแขน แกว่งแขนไปข้างหน้าและไปข้างหลังให้สุดวันละ 100 ครั้งหรือมากกว่าได้จะดีมากๆเลย

ระยะที่ 2 : frozen stage(4–9 months) ปวดลดลง เคลื่อนไหวได้น้อยลง
หากผู้ป่วยเป็นในระยะที่ 1 แล้วไม่เข้ารับการรักษาหรือปล่อยทิ้งไว้จะเข้าสู่ระยะ frozen stage หรือระยะติดแข็งนั่นเอง องศาการเคลื่อนไหวน้อยลง รู้สึกตึงรั้งกล้ามเนื้อรอบๆข้อไหล่จนถึงต้นคอ อาการปวดจะลดน้อยลงแล้วในระยะนี้ จากเดิมที่อยู่ในระยะที่ 1 อยู่เฉยๆก็ปวด แต่ระยะที่ 2 อยู่เฉยๆอาการปวดอาจหายไปแล้ว แต่ถ้าฝืนดัดแขนก็มีอาการปวดอยู่บ้าง

ระยะที่ 3 : thawing stage รบกวนการใช้ชีวิตประวจำวันของเรา
และแล้วก็มาถึงระยะสุดท้าย (เย้) นั่นก็คือระยะ thawing stage ถ้าแปลตรงตัวก็คือระยะละลายสรุปง่ายๆระยะนี้องศาการเคลื่อนไหวของข้อไหล่จะน้อยลงเรื่อยๆจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน จะหยิบจะยกของก็ทำได้ลำบากมากขึ้น จะสวมเสื้อก็ทำไม่ได้ ติดตะขอเสื้อในก็ไม่สะดวก หวีผมก็ลำบาก จะสระผมก็สระได้แค่มือเดียวเพราะแขนอีกข้างยกไม่ได้
ทำท่าดังกล่าวไม่ได้ ได้น้อยลง หรือเจ็บมากขึ้น
  •        เอื้อมหยิบของจากที่สูง
  •       ติดตะขอเสื้อใน
  •        หวีผม


 วิธีการรักษาและออกกำลังกาย


วิธีที่แนะนำมากที่สุดคือให้พบนักกายภาพบำบัด เพื่อตรวจและประเมินอาการเพื่อวางแผนและให้แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง

1.    กายภาพบำบัด
การทำกายภาพจะใช้การดัด ดึงข้อไหล่เพื่อเพิ่มองศาให้เคลื่อนไหวได้มากขึ้น อาจใช้เครื่องมือบางประเภทเข้าช่วย เช่น ultrasound, short wave, laser เป็นต้น ร่วมกับการสอนท่าบริหารข้อไหล่ให้กลับไปทำเองที่บ้าน
2.    การออกกำลังกาย

ท่าที่1 ประสานมือทางด้านหน้า พยายามยกแขนให้สูงที่สุด (แนบหู) และเอาลงตามเดิม  10ครั้งต่อเซต 3 เซตต่อวัน


ท่าที่2 ใช้มือด้านที่ไม่มีอาการปวดจับไว้ที่โต๊ะ หรือเก้าอี้ที่มีความมั่นคง ห้อยแขนอีกข้างให้ตกตามแรงโน้มถ่วง แกว่งแขนเป็นวงกลมช้าๆ คล้ายลูกตุ้ม 3 นาทีต่อเซต 3เซตต่อวัน



ท่าที่3 หันหน้าเข้าหากำแพง เหยียดแขนไปด้านหน้าให้สุด ศอกตรง ทำท่าปูไต่ โดนการค่อยๆขยับนิ้วคืบขึ้นไปทางด้านบนให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ ทำซ้ำ 10 ครั้ง (ขึ้นและลงนับเป็น 1 ครั้ง) จากนั้นเปลี่ยนเป็นท่าหันด้านข้างเข้าหากำแพง กางแขนออกทางด้านข้าง ทำท่าปูไต่ซ้ำตามเดิมอีกครั้ง



ท่าที่4 พยายามไขว้มือไปทางด้านหลังคล้ายท่าติดตะขอเสื้อใน ไขว้สูงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้โดยใช้มืออีกด้านช่วย ค้างไว้ 10 วินาที 10ครั้งต่อเซต 3 เซตต่อวัน


ท่าที่5 นำผ้าขนหนูมาจับไว้ลักษณะดังรูป โดยให้แขนข้างที่มีภาวะไหล่ติดจับอยู่มือทางด้านล่าง และใช้แขนอีกข้างช่วยดึงให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ ค้างไว้ 10 วินาที 10ครั้งต่อเซต 3 เซตต่อวัน



Comments

Popular posts from this blog

โรคหลอดเลือดสมอง(STROKE) รู้ก่อนคือรอดดด!!

เบาหวาน..ก็ออกกำลังกายได้

การออกกำลังกายสำหรับโรคอัมพาตใบหน้า (Bell's Palsy)